1 . CTO สร้างขึ้นมาทั้งหมด 1 พันล้านเหรียญ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่อยู่ในตลาดตอนนี้ น่าจะยังแค่ 20% ของจำนวนทั้งหมด เหรียญ CTO ทั้งหมดถูกแบ็คอัพด้วยกองทุนที่มีอยู่ ยิ่งกองทุนเพิ่มมากขึ้นเหรียญยิ่งมีมูลค่ามากขึ้น ในกรณีเดียวกันหากมีการขาย CTO และถอนเงินฝากออก แน่นอนว่าจะทำให้กองทุนเล็กลงและเหรียญราคาลงได้ แต่บริษัทได้เตรียมโปรเจค 2 3 4 ....ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อดึงเงินทุนเพิ่มเข้ามาในกองทุน
2. Jarvis จะเปิดรับเงินทุนถึงแค่ประมาณ 1 ล้านคน ตอนนี้เปิดรับไป ประมาณ 20% แล้ว, มีคำถามมาว่าหลังจาก Jarvis จะมี Project ใหม่เข้ามาอีก แล้วจะมาระดมเงินของเราอีกมั้ย ตรงนี้อยู่ทีเราเลือกเองครับว่าเราจะสนใจในผลิตภัณนืของทาง Cloud Token มั้ย ( อยู่ที่เราเอง )
3. ประโยชน์จากโปรเจคอื่นที่จะเข้ามาที่จะเอื้อให้พวกเราได้ผลประโยชน์ไปด้วยกัน เช่น การใช้ Payment Solution การใช้ Payment Solution นั้นจะมีการเปิดให้เราสำรอง Cloud Token ( Fixไว้ ตามจำนวนที่จะกำหนดมา เช่น 1000 CTO ) เราจะได้อะไร เราจะได้ ปันผลจากค่าธรรมเนียมจากการใช้บัตรทั่วโลก
อีกตัวอย่างของโปรเจค คือ ทุกวันนี้เราฝากเงินให้เค้าไว้ใช่มั้ย ? แต่โปรเจคที่จะเกิดขึ้น คือ ให้เราสามารถ ฝากเงินไว้ใน Binance ( ขอยกตัวอย่างเป็น Binance ) แล้วใช้ API ลิ้งกับ SOFTWARE ของ บริษัทเพื่อเทรดเอง เงินจะอยู่ที่เราเอง อันนี้อยู่ที่ความสะดวกว่าเราชอบแบบไหน แน่นอนมีค่าบริการการใช้ BOT
อีกวิศัยทัศน์นึงของบริษัทคือ ต้องการทำให้ APP CLOUD TOKEN เป็นแบบ WECHAT หลายๆ ท่านคงรู้ว่า WECHAT นั้นเป็น SOCIAL MEDIA แอปและ PAYMENT SOLUTION ด้วยเลย แต่ CLOUD TOKEN ใจะใช้งานบนบล็อกเชน โปรเจคพวกนี้จะดึงเม็ดเงินเพิ่มเข้ามาในกองทุนมหาศาล ควรอย่างยิ่งจะส่งผลให้ราคา CLOUD TOKEN สูงขึ้น
4. มีคำถามมาอีกว่า ถ้าเค้าจ่าย CLOUD TOKEN หมดแล้วจะเป็นอย่างไร ทีนี้ มองแบบนี้ครับ คือให้เค้าจ่ายมาหมดจริงๆ ซึ่งคงจะนานแต่ต่อให้หมดดในระหว่างนั้นก็ต้องมีการเปลี่ยน CTO --- >> ETH ตลอดเวลาหมุนเวียนอยู่ในระบบแบบนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อเราแลก CTO เป็น ETH บริษัทก็จะดึง CTO กับไปพักที่บริษัทเพื่อรอการจ่ายออกอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น